บทที่ ๖ สาระสำคัญในคัมภีร์กถาวัตถุ ชุดที่ ๒

บทที่ ๖ สาระสำคัญในคัมภีร์กถาวัตถุ

ชุดที่ ๒

๑.    พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระเกิดความละอายใจต่อการประพฤติปฏิบัติของเหล่าภิกษุ อลัชชีที่ปลอมบวชทั้งหลาย จึงปลีกตัวไปอยู่ที่อุโธคงคาบรรพต เจริญวิปัสสนาอยู่ที่นั่นเงียบๆเป็นเวลากี่ปี

ก. ๔ ปี                   ข. ๕ ปี

ค. ๖ ปี                   ง. ๗ ปี

๒.    เพราะจำนวนพระอลัชชีมากกว่าพระภิกษุ

แท้ พระภิกษุแท้จึงต้องหยุดทำอุโบสถสังฆกรรมกี่ปี

ก. ๕ ปี                   ข. ๖ ปี

ค. ๗ ปี                   ง. ๘ ปี

๓.    พระเจ้าอโศกมหาราช มีความเลื่อมใสและซาบซึ้งในหลักธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธองค์ ได้ประทับอยู่อุทยานเป็นเวลานานกี่วัน

ก. ๕ วัน                 ข. ๖ วัน

ค. ๗ วัน                 ง.​ ๘ วัน

๔.    พระเจ้าอโศกมหาราช ได้ประกาศบอกให้ภิกษุที่อยู่ในชมพูทวีปให้มาประชุมกันในวันที่เท่าไหร่

ก. วันที่ ๕               ข. วันที่ ๖

ค. วันที่ ๗               ง.​ วันที่ ๘

๕.    พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ได้ถวายเทศนาแก่ใคร

ก. พระเจ้าพิมพิสาร 

ข. ​พระเจ้าอโศกมหาราช

ค.​ พระมหากัสสปะ

ง.​ พระอานนท์

๖.    พระเจ้าอโศกมหาราช ได้ประกาศบอกให้ภิกษุที่อยู่ในชมพูทวีปให้มาประชุมกัน ณ ที่ใด

ก. เมืองสาวัตถี          ข. อโศการาม

ค. เมืองเวสาลี          ง. เมืองราชคฤ แคว้นมคธ

๗.    พวกสัสสตวาที คือใคร

ก. ผู้มีวาทะว่า อัตตาและโลกเที่ยง

ข. พวกมีความเห็นว่า บางอย่างเที่ยง

ค. พวกมีความเห็นว่า โลกนี้มีที่สิ้นสุดก็มี

ง.​ ผู้มีความเห็นว่า วาทะดิ้นไม่ได้ตายตัว

๘.    พวกอมราวิกเขปิกาทิฏฐิ คือใคร

ก. ผู้มีวาทะว่า อัตตาและโลกเที่ยง

ข. พวกมีความเห็นว่า บางอย่างเที่ยง

ค. พวกมีความเห็นว่า โลกนี้มีที่สิ้นสุดก็มี

ง.​ ผู้มีความเห็นว่า วาทะดิ้นไม่ได้ตายตัว

๙.    พวกมีความเห็นว่า บางอย่างเที่ยง คือพวกใด

ก. พวกสัสสตวาที

ข. พวกเอกกัจจสัสสตทิฏฐิ

ค. พวกอันตานันติกทิฏฐิ

ง.​ พวกอมราวิกเขปิกาทิฏฐิ

๑๐. พวกที่มีความเห็นว่าอัตตาและโลกเกิดขึ้นเอง คือพวกใด

ก. พวกเอกกัจจสัสสตทิฏฐิ

ข. พวกอันตานันติกทิฏฐิ

ค. พวกอมราวิกเขปิกาทิฏฐิ

ง.​ พวกอธิจจสมุปปันนิกทิฏฐิ

๑๑. เมื่อพระเจ้าอโศกทรงทราบว่าพวกนี้เป็นอัญเดียรถีย์ไม่ใช่พระภิกษุ เพราะพระองค์ได้ศึกษาลัทธิมาก่อน จึงพระราชทานผ้าขาวแก่เดียรถีย์เหล่านั้นให้สึกไปกี่คน

ก. ๔๐,๐๐๐ คน

ข. ๕๐,๐๐๐ คน

ค. ๖๐,๐๐๐ คน

ง.​ ๗๐,๐๐๐ คน

๑๒. คัมภีร์กถาวัตถุ เป็นคัมภีร์ที่รวบรวมเรื่องราวที่ถือกันมาอย่างผิดๆ รวม ๒๒๖ เรื่อง เมื่อแบ่งตามสาระธรรมแล้วได้เป็นเรื่องใหญ่ๆ กี่เรื่อง

ก. ๑๕ เรื่อง             ข. ๑๖ เรื่อง

ค. ๑๗ เรื่อง             ง.​ ๑๘ เรื่อง

ตอนที่ ๒

๑.    ภีร์กถาวัตถุ เป็นลำดับที่เท่าไร ของอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ?

ก. ที่ ๓                ข.  ที่ ๕                          ค.  ที่ ๗               ง.  ไม่มีข้อถูก

๒.    คัมภีร์กถาวัตถุ  ใครเป็นผู้แต่งขึ้น ?

ก. พระพุทธโฆษาจารย์    

ข.  พระโมคคัลลีบุตร    

ค. พระธรรมปาละ     

ง.  พระสิริมังคลาจารย์

๓.    คัมภีร์กถาวัตถุ  เกิดขึ้นในการสังคายนาครั้งที่เท่าไร ?

ก. ครั้งที่ ๑                  ข.  ครั้งที่ ๒                    ค.  ครั้งที่ ๓                 ง.  ครั้งที่ ๔

๔.    คัมภีร์กถาวัตถุ  มีความยาวเท่ากับคัมภีร์ใด ?

ก. ขุททกนิกาย         ข.  ทีฆนิกาย                   ค.  สังยุตตนิกาย      ง.  อังคุตตรนิกาย

๕.    หมวด ๕ แห่งอนุโลมในคัมภีร์กถาวัตถุ เป็นของฝ่ายใด ?

ก. สกวาที                 ข.  ปรวาที                     ค.  ธัมมวาที               ง.  อาจริยวาที

๖.    คัมภีร์กถาวัตถุ แบ่งเป็นกี่ปัณณาสก์ ?

ก. ๔ ปัณณาสก์         ข.  ๕ ปัณณาสก์            ค.  ๖ ปัณณาสก์         ง.  ๗ ปัณณาสก์

๗.    คัมภีร์กถาวัตถุ แบ่งเป็น ๘ นิคคหะ เรียกว่าอะไร ?

ก. อัฏฐมุข           ข.  อัฏฐกนิคคหะ          ค.  อัฏฐกถา        ง. ข้อ ก และ ข ถูก

๘.    นิกายฝ่ายปรวาที ที่เกิดภายหลังได้แก่นิกายใด ?

ก. อันธกะ                 ข.  อปรเสลิยะ               ค.  ราชคิริกะ             ง.  ถูกทุกข้อ

๙.    การมีสติกำหนดรู้สภาวะที่เกิดกับกาย  เวทนา  จิต  ธรรม  เรียกว่าอะไร ?

ก. วิปัสสนา                ข.  สติปัฏฐาน               ค.  กรรมฐาน              ง.  ธรรมวิจัย

๑๐. ในปลายพุทธกาลถึงหลังพุทธกาล อรรถแห่งพระธรรมวินัยคลาดเคลื่อน เพราะเหตุใด ?

ก. พวกเดียรถีย์ปลอมเข้ามาบวช                              ข.  ไม่ได้บวชด้วยศรัทธาแท้

ค. การตีความพระธรรมให้เข้ากับทิฏฐิ                    ง.  ถูกทุกข้อ

๑๑. ภูมิที่สัตว์ปฏิสนธิ มีเท่าไร ?

ก. ๘ ภูมิ                   ข.  ๑๖ ภูมิ                      ค.  ๓๑ ภูมิ                ง.  ไม่มีข้อถูก

๑๒.    เหตุใด ผู้ศึกษาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษา คัมภีร์กถาวัตถุ ?

ก. ป้องกันความเข้าใจผิดในพระพุทธศาสนา             ข.  ช่วยให้ผู้เห็นผิดกลับมาเห็นถูก

ค. ช่วยให้ผู้ศึกษารู้อรรถแห่งธรรม                             ง.  ถูกทุกข้อ

ตอนที่ ๓

1)     การทำสังคายนาครั้งที่ ๒  กระทำขึ้นเมื่อใด

ก. เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ ๒๐๐ ปี

ข. เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้  ๓  เดือน

ค.​ เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ ๒๓๔  ปี

ง.​ เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ ๕๐๐ ปี

2)     พวกที่ถือมติของการทำสังคายนาครั้งที่ ๒  เรียกว่าอย่างไร

ก. เจติยวาทะ           ข. โคกุลิกะ

ค. เถรวาท                ง.​ ถิกวาทะ

3)     เมืองที่พระเจ้าอโศกมหาราชปกครองอยู่ชื่อว่าเมืองใด

ก.  นิโครธ                      ข. สาวัตถี

ค. เชตะวัน                     ง​. ปาฏลีบุตร

4)     คัมภีร์ลำดับที่ ๕  ของพระอภิธรรมปิฏกคือ คัมภีร์ใด

ก. ยมก                          ข. วิภังค์

            ค. กถาวัตถุ                     ง.​ ธัมมสังคณี

5)     คัมภีร์ใดจัดเป็นเพชรเม็ดเอกในพระไตรปิฏก

ก. กถาวัตถุ                     ข. ยมก

            ค. วิภังค์                        ง. ธัมมสังคณี

6)     คัมภีร์เนตติปกรณ์รจนาโดยพระเถระรูปใด

            ก. พระอานนท์               ข. พระสารีบุตร

            ค. พระพุทธโฆสะ            ง.​ พระมหากัจจายน

7)     พวกสัสสตวาที  คือ  พวกที่มีความเห็นว่าอย่างไร

ก. อัตตาและโลกเที่ยง      ข. เที่ยงแต่บางอย่าง

ค. โลกที่มีสิ้นสุด              ง.​ โลกไม่มีที่สิ้นสุด

8)     คัมภีร์กถาวัตถุเป็นคัมภีร์ที่พระเถระรูปใดได้ ภาษิตขึ้นมา

ก. พระอานนท์               ข. พระพุทธโฆสะ

ค. พระโฆคัลลีบุตรติสสเถระ ง.​ พระสารีบุตร

9)     ปฏิโลมฐปนา  หมายถึง  สิ่งใด

ก. การตั้งปฏิโลม             ข. การยกอนุโลม

ค. การถามปฏิโลม           ง.​ การตอบปฏิโลม

10)  ปฏิโลมปาปนา  หมายถึงสิ่งใด

ก. การตั้งปฏิโลม             ข. การถึงปฏิโลม

ค. การยกอนุโลม             ง.​ การตอบปฏิโลม

11)  อนุโลมปาปนาคือการกล่าวถึงเรื่องใด

ก. การกล่าวถึงคำตอบในปัญหาหลัง

ข. การกล่าวถึงย้อนถึงคำตอบ

ค. การกล่าวถึง คำพูด

ง.​ การกล่าวถึงการยกอนุโลม

12)  คำถามและคำตอบตามมาติกาที่พระพุทธเจ้า ได้ตั้งแบบเอาไว้ เรียกชื่อว่าอย่างไร

ก. ปกรณ์                       ข. กถาวัตถุ

ค. ยมก                          ง.​ อัฏฐมุข

บทที่ ๖ สาระสำคัญในคัมภีร์กถาวัตถุ

แบบทดสอบบทที่ ๖ สาระสำคัญในคัมภีร์กถาวัตถุ

ชุดที่ ๑

ตอนที่ ๑ 

1.ในการทำสังคายนาครั้งที่ 2 มีนิกายแยกออกมาจากนิกายโคกุลิกะ คือนิกายใด

   ก. ปัณณัตติวาทะ                                ข. พหุลิยะ

   ค. ถูกทั้ง  ก และ ข                              ง. ถูกเฉพาะข้อ ก

2.คัมภีร์กถาวัตถุเป็นคัมภีร์ลำดับที่เท่าไร ของพระอภิธรรม 7 คัมภีร์

   ก. ลำดับที่ 8                                      ข. ลำดับที่ 7

   ค. ลำดับที่ 6                                      ง. ลำดับที่ 5

3.สำหรับคัมภีร์กถาวัตถุลำดับที่ 5 ของพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ ใครเป็นผู้ที่ภาษิตขึ้น

   ก. พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ             ข. พระอุบาลี

   ค. พระสารีบุตร                                    ง. พระอานนท์

4.ข้อใด ไม่ใช่ ความหมายของคัมภีร์กถาวัตถุ

   ก. เป็นคัมภีร์ที่รวบรวมวัตถุ

   ข. เป็นคัมภีร์ที่รวบรวมเรื่องที่นำมาชักถาม

   ค. เป็นคัมภีร์ที่จำแนกเฉพาะนัยอภิธรรมเท่านั้น

   ง. ถูกทั้ง ก และ ข

5.คัมภีร์กถาวัตถุเป็นคัมภีร์ที่รวบรวมวัตถุหรือเรื่องที่นำมาชัก ถาม เพื่อชี้ความเห็นผิดความเห็นถูก รวมทั้งหมดกี่เรื่อง

   ก. รวม 226 เรื่อง                                ข. รวม 224 เรื่อง

   ค. รวม 216 เรื่อง                                ง. รวม 262 เรื่อง

6. “ การตั้งอนุโลม” เป็นความหมายของคำใด

   ก. อนุโลมปาปนา                               ข. อนุโลมฐปนา

   ค. อนุโลมโรปนา                                ง. ปฏิโลมฐปนา

7.ข้อใดกล่าไม่ถูกต้อง

   ก. อนุโลมฐปนา เป็นการตั้งอนุโลม

   ข. อนุโลมปาปนา เป็นการถึงอนุโลม

   ค. อนุโลมโรปนา เป็นการยกอนุโลม

   ง. ปฏิโลมฐปนา เป็นการถึงปฏิโลม

8. “ อนุโลมปัญจกะและปัจจนีกปัญจกะ มีโครงสร้างเดียวกันมีหมวด 5 เหมือนกัน”  ข้อใดกล่าวถึงความแตกต่างของอนุโลมปัจจกะและปัจจนีกปัญจกะได้ถูกต้อง

   ก. การถามเป็นการถามแบบไม่ต้องการคำตอบ

   ข. การถามเป็นการถามแบบมุ่งให้คำตอบ

   ค. การถามเป็นการถามแบบเชิงปฏิเสธ

   ง. ถูกทั้ง ก และ ข

9.ในคัมภีร์กถาวัตถุทั้ง 226 เรื่อง เรื่องที่มีนิกายฝ่ายปรวาทที่เห็นผิดมากที่สุดคือเรื่องเท่าใด

   ก. เรื่องที่ 10                                        ข. เรื่องที่ 9

   ค. เรื่องที่ 8                                          ง. เรื่องที่ 7

10.หลังพุทธปรินิพพานมีพระอลัชชีและนักบวชนอกพระพุทธศาสนาที่ปลอมบวชเป็นจำนนมาก เพราะปัจจัยใด

   ก. เพราะลาภเป็นปัจจัย                       

   ข. เพราะตามกระแส

   ค. เพราะมีผู้ชักชวน                

   ง. เพราะต้องการให้คนเคารพนับถือ

11.ข้อใดกล่าวถูกต้อง

   ก. คัมภีร์กถาวัตถุจัดเป็นเพชรเม็ดรองในพระไตรปิฎกที่ควรได้รับ การเจียระไน โดยผู้ที่ศึกษา

   ข. คัมภีร์กถาวัตถุจัดเป็นเพชรเม็ดเอกในพระไตรปิฎกที่ควรได้รับ การเจียระไน โดยผู้ที่ศึกษา

   ค. ถูกทั้ง ก และ ข

   ง. ถูกเฉพาะข้อ ข

12.ข้อใด คือส่วนประกอบที่สำคัญของคัมภีร์กถาวัตถุ

    ก. วิธีการถาม                                  ข. เนื้อหาทั้ง 18 หมวด

    ค. วิธีการตอบ                                 ง. ถูกทั้ง ก และ ข

ตอนที่ ๒

1.“คัมภีร์กถาวัตถุ”เป็นคัมภีร์ที่รวบรวมอะไร?

     ก. หลักธรรม                                 ข. คำสอน

     ค. ปรวาที                                       ง. วัตถุ

2.คำว่า “วิบัติแห่งทิฏฐิ”เป็นเรื่องของบุคคลภายนอกมีกี่นิกาย?

      ก. 17 นิกาย                                    ข. 16 นิกาย

       ค. 15 นิกาย                                   ง.14 นิกาย

3.นิกายภายนอกนำมาเผยแผ่อย่างผิดๆตั้งแต่กาลก่อน พ.ศ.ใด?

     ก. พ.ศ.100-271                                ข. พ.ศ.100-217

     ค. พ.ศ.100-272                                 ง. พ.ศ.100-277

4. เมื่อพุทธศักราช 100 เป็นปีที่ทำสังคายนาพระอภิธรรมวินัยครั้งที่เท่าไร?

  ก.  ครั้งที่ 1               ข. ครั้งที่ 2            

  ค. ครั้งที่ 3                ง. ครั้งที่ 4

5. “มหาสังคีติกะ”แปลว่าอย่างไร?

 ก. การทำสังคายนาครั้งเล็ก                   

ข. การทำสังคายนาครั้งใหญ่

ค. การทำสังคายนาครั้งกลาง                  

ง. ไม่มีข้อถูก

6. ผู้มีวาทะว่า อัตตาและโลกเที่ยง ก็ทูลว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีวาทะว่า อัตตาและโลกเที่ยง เรียกว่าอะไร?

ก. พวกเอกจัจสัสสตทิฏฐิ        ข. พวกสัสสตาที

ค. พวกอันตานันติกทิฏฐิ       ง. พวกอมราวิกเขปิกาทิฏฐิ

7. นิพพานปัจจุบันเป็นธรรมอย่างยิ่งของสัตว์ด้วยเหตุกี่ประการ?

ก. ๕ ประการ                             ข. ๖ ประการ

ค. ๗ ประการ                             ง. ๘ ประการ

8. วัชชีปุตตกะมีความเห็นผิดในเรื่องที่เท่าใด?

ก. ๙๘-๑๐๙,๑๑๒                    ข. ๑๘

ค. ๑,๒                                         ง. ๒,๖,๗,๑๙,๑๑๓

9. สัพพัตถิกวาทะ มีความเห็นผิดในเรื่องที่เท่าใด?

ก. ๑,๒                                         ข. ๒๑,๕๕,๕๙,๘๒

ค. ๑๘                                           ง. ๒,๖,๗,๑๙,๑๑๓

10. วิธีนำคัมภีร์ถาวัตถุประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร?

ก. ตั้งคำถามจากคัมภีร์

ข. การซักถามควรเริ่มเรื่องง่ายๆก่อน

ค. เป็นเรื่องที่ศึกษามีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้

ง. ถูกทุกข้อ

11. แนวทางการวิเคราะห์ถึงความเชื่อของฝ่ายปรวาทีเป็นอย่างไร?

ก. จำนวนภิกษุมีจำนวนมากกระจัดกระจายไปทั่วชมพูทวีป

ข. การมีสติกำหนดรู้สภาวะที่เกิดกับกาย

ค. การนำแบบอย่างการตั้งคำถามจากคัมภีร์

ง. การซักถามควรเริ่มเรื่องง่ายๆก่อน

12. ทั้ง ๒๒๖ เรื่องนั้นแบ่งตามสารธรรมแล้วจะได้กี่เรื่องใหญ่ๆ?

ก. ๑๗                                          ข. ๑๘

ค. ๑๙                                           ง. ๒๐

13. โครงสร้างคำถามตามแนวคัมภีร์กถาวัตถุมีอะไร?

ก. การตั้งคำถาม                       ข. การกล่าวข่ม

ค. การอธิบายความ                                   ง. ถูกทุกข้อ

14. หากสกวาทีเป็นฝ่ายถามก่อนเรียกกันว่าอะไร?

ก. อนุโลมปัญจกะ                   ข. ปัจจนีก ปัญจกะ

ค. ปัญจกะ อนุโลม                  ง. ปัญจกะปัจจนี

15. หากปรวาที ถามก่อนเรียกกันว่าอะไร?

ก. อนุโลมปัญจกะ                   ข. ปัจจนีกปัญจกะ

ค. ปัญจกะ อนุโลม                  ง. ปัญจกะปัจจนี

16. เมื่อปรวาที่ตอบปัญหาแรกกับปัญหาหลังขัดแย้งกัน สกวาที จึงกล่าวข่มด้วยหมวดที่เท่าใด?

ก. หมวดที่ ๕-๑๐                      ข. หมวดที่ ๑๐-๑๕

ค. หมวดที่ ๒-๕                        ง. หมวดที่ ๒๐-๒๕